วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สัตว์สังคมและธรรมชาติของมนุษย์

สัตว์สังคมและธรรมชาติของมนุษย์

ความหมายของสัตว์สังคม
            สัตว์สังคม  คือ  สัตว์ที่โดยธรรมชาติแล้วต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม  มีความสัมพันธ์  อาศัยพึ่งพากัน  เช่น  มด  ปลวก  ลิง  ช้าง  และมนุษย์  เป็นต้น
            มนุษย์เป็นสัตว์สังคมประเภทเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ จนได้ชื่อว่ามนุษย์  แปลว่า “ ผู้ฉลาด  ผู้รู้คิด ”  ภาษาอังกฤษใช้คำว่า  HUMAN  หมายถึง  ผู้มีวัฒนธรรม  ในทางสังคมวิทยาถือว่ามนุษย์เกิดขึ้นพร้อมกับสังคม  หรือสังคมมนุษย์  มนุษย์กับสังคมจึงเป็นสิ่งเดียวกันแยกจากกันไม่ออก


        อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีก  กล่าวว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” หมายความว่า  โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ไม่สามารถอยู่ลำพังเพียงคนเดียวได้ต้องอาศัยรวมกันอยู่เป็นหมู่เหล่า  ติดต่อสัมพันธ์กันพึ่งพาอาศัยและอยู่ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์เดียวกัน มนุษย์ได้รวมตัวกันสร้างวัฒนธรรมขึ้น  เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองจากด้านที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน (animal side)  มาเป็นด้านที่เป็นมนุษย์(human side)  มนุษย์จึงต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะวัฒนธรรมเกิดจากการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองแบบสัญชาตญาณสัตว์การเรียนรู้ของมนุษย์จึงไม่มีที่สิ้นสุด

  

มนุษย์สมัยดึกดำบรรพ์มีการรวมกลุ่มกันหากินด้วยการล่าสัตว์และเก็บผักกินเป็นอาหาร

มูลเหตุที่มนุษย์ต้องมาอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มสังคม มนุษย์เป็นสัตว์สังคมจำพวกหนึ่งที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกันด้วยเหตุผล  ดังนี้                
          1.  มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่เลี้ยงลูกด้วยนม  ที่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ที่เกิดก่อนเลี้ยงดูและถ่ายทอดวัฒนธรรม 
           2.  เพื่อสนองตอบความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ 
           3.  มนุษย์ต้องการรับ  และถ่ายทอดวัฒนธรรมระหว่างสมาชิก  เพื่อให้มีความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์
           4. เพื่อร่วมมือและแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ  ทำให้มีการพึ่งพา  และร่วมมือในการดำเนินชีวิตร่วมกัน

                                   มนุษย์เป็นสัตว์สังคมจำพวกหนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่รวมกัน
                                   เป็นกลุ่ม  และมีการกระทำระหว่างกันทางสังคม

ความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ 
         มนุษย์มีความต้องการพื้นฐานหรือความต้องการจำเป็นในสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้มากมายหลายสิ่ง และมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุดซึ่งสามารถแบ่งความต้องการออกได้  4  ด้าน  คือ 
        1.  ความต้องการด้านชีวภาพ คือ ความต้องการสิ่งที่จำเป็นแก่การมีชีวิตอยู่รอดของมนุษย์และส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับสัตว์อื่น ๆ เช่น  อาหาร  อากาศ  ยารักษาโรค น้ำ  การขับถ่าย  และ
ความต้องการทางเพศ
        2.  ความต้องการด้านกายภาพ คือ ความต้องการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์  ทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบายมากขึ้น  เช่น สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เครื่องมือเครื่องใช้  อุปกรณ์ต่าง ๆ
        3.  ความต้องการด้านจิตวิทยา คือ ความต้องการที่เกี่ยวกับจิตใจ  เช่น  ต้องการความรัก การปลอบใจเมื่อมีทุกข์หรือผิดหวัง ต้องการความรู้ ความสำเร็จ ความชื่นชมยินดี เป็นต้น
        4. ความต้องการด้านสังคม คือ ความต้องการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้อื่น ต้องการเพื่อนคู่คิด   ต้องการรับและถ่ายทอดวัฒนธรรม 
        ความต้องการทั้ง  4  ประการ  จะบรรลุโดยการที่มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมพึ่งพา
อาศัยซึ่งกันและกัน  ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนจึงจะได้รับการตอบสนองครบทั้ง 4  ด้าน

ธรรมชาติของมนุษย์ 
      มนุษย์มีลักษณะประจำตัวหลายอย่าง  บางอย่างก็เหมือนกับสัตว์สังคมอื่น ๆ และบางอย่างก็เป็นลักษณะเฉพาะของมนุษย์ ที่สัตว์ประเภทอื่นไม่มี  ได้แก่

ธรรมชาติของมนุษย์ที่เหมือนกับสัตว์อื่น  มีดังนี้
1.  ต้องการอาหาร  น้ำ  และอากาศ
2.  ต้องอาศัยพึ่งพาสิ่งแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและชีวภาพเพื่อบำบัดความต้องการ
3.  มีความสามารถในการสืบพันธุ์                                      
4.  มีหน้าตาคล้ายผู้ให้กำเนิด  เช่น  พ่อ  แม่  หรือบรรพบุรุษ
5.  เมื่อหิวมนุษย์และสัตว์ต้องแสวงหาให้ได้มาซึ่งอาหาร
6.  มนุษย์และสัตว์มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ

  
                                          
             ความสามารถในการสืบพันธุ์ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เหมือนกับสัตว์อื่นก่อให้เกิดสถาบันพื้นฐานแรกสุดของสังคม  คือ  ครอบครัว

ธรรมชาติของมนุษย์ที่แตกต่างจากสัตว์อื่น  มีดังนี้ 
            1.  มนุษย์มีร่างกายตั้งตรง (ตั้งฉาก) กับพื้นโลกในขณะที่สัตว์อื่น ๆ ที่เรามักเรียกว่า
“เดรัจฉาน”  แปลว่าผู้มีร่างกายโดยขวาง  เช่น  ม้า  หมา  แมว  นก  ไก่  ปลา  จะมีร่างกาย  (ลำตัว) ตามขวาง (เปรียบเทียบกับตั้งตรง) หรือขนานกับพื้นโลก  การที่มนุษย์มีร่างกายตั้งตรงกับพื้นโลกทำให้เกิดความแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานอื่น ๆ  คือ
                   ก.  ช่วยให้มนุษย์สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้รอบตัวเอง  และเป็นไปอย่างรวดเร็ว
                   ข.  ช่วยให้แขนและมือเป็นอิสระ  โดยไม่ต้องช่วยในการเคลื่อนไหวร่างกาย  ประกอบกับลักษณะและคุณภาพของนิ้วมือที่ไม่ติดกัน  นิ้วงอได้  กระดิกได้  มีนิ้วหัวแม่มืออยู่ในทิศที่ตรงกันข้ามกับนิ้วอื่น ๆ ทำให้การใช้แขนและมือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
                   ค.  ช่วยให้มนุษย์ใช้ปากในการพูด  ประกอบกับคางที่ยื่นออกมา  ทำให้มีขากรรไกรกว้าง
ช่วยในการออกเสียงคำต่าง ๆ ชัดเจน  เกิดภาษาพูดอันละเอียดอ่อน  และหลากหลาย   
( สัตว์อื่นก็มีภาษาพูด  แต่ภาษาสัตว์มีน้อยไม่ละเมียดละไมเหมือนภาษาพูดของมนุษย์ )
             2.  ความได้เปรียบในตำแหน่งของดวงตา  มนุษย์มีดวงตาคู่อยู่ด้านหน้าของกะโหลกศีรษะ   ประกอบกับร่างกายตั้งตรง  ช่วยให้มีความสามารถในการมองเห็นได้ดี
             3.  มองใหญ่  และมีระบบประสาทที่สลับซับซ้อนกว่าสัตว์อื่น โดยเปรียบเทียบกับหนักตัวที่เท่า ๆ กันทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานของสมองมนุษย์  ดีกว่า  ฉลาดกว่า  มีเชาว์ปัญญาสูงกว่าสัตว์อื่น
              4.  มีความต้องการทางเพศไม่จำกัดฤดูกาลทำให้สามารถ  หรือจำเป็นในการควบคุมจำนวนประชากรได้  และเกิดการวางระเบียบแบบแผนเกี่ยวกับครอบครัวขึ้น
              5.  มีระยะเวลาของการเป็นทารกที่ยาวนาน  ซึ่งทำให้สามารถเรียนรู้และเตรียมตัวที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมได้ดี  ดังนั้นวิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์ (พฤติกรรมของมนุษย์)  จึงเป็นไปโดย
การเรียนรู้  ผิดกับพฤติกรรมของสัตว์จะเป็นไปตามสัญชาตญาณ


มนุษย์มีสมองขนาดใหญ่  และระบบประสาทที่สลับซับซ้อนกว่าสัตว์อื่ สามารถคิดอ่านสิ่งต่าง ๆได้ดีกว่า  ฉลาดกว่าและ  มีเชาว์ปัญญาสูงกว่าสัตว์อื่น

ความได้เปรียบที่สำคัญของมนุษย์   
       ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์มีลักษณะพิเศษหลายอย่างที่ได้เปรียบสัตว์ที่สำคัญ  มีดังนี้
1.  ความสามารถในการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
2.  มีมันสมองที่ใหญ่และมีคุณภาพ  สามารถเดินได้เร็ว
3.  มีนิ้วมือที่สามารถใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
4.  มีตาที่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดีและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
5.   มีอายุที่ยืนยาวกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ
6.  มนุษย์มีชีวิตอยู่และเรียนรู้ร่วมกันเป็นสังคม
7.  มนุษย์มีกิจกรรมทางเพศตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจนถึงวัยชรา
8.  มนุษย์สามารถเรียนรู้และมีความฉลาด  รู้จักใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 

ความเสียเปรียบที่สำคัญของมนุษย์   
        มนุษย์มีธรรมชาติหลายอย่างที่เสียเปรียบสัตว์จำพวกอื่น  ดังนี้
1.  มีระยะเวลาเป็นทารกที่ยาวนาน  ช่วยเหลือตัวเองในระยะเริ่มต้นของชีวิตไม่ได้
2.  มนุษย์ไม่มีเขี้ยวเล็บในการฉีกเนื้อและพืช  หรือป้องกันศัตรู
3.  มีความสามารถในการดมกลิ่น ด้อยกว่าสัตว์บางชนิด
4.  การขยายพันธุ์แต่ละครั้งต่ำกว่าสัตว์หลายชนิด 

ลักษณะพิเศษของมนุษย์
    มนุษย์มีลักษณะพิเศษที่สำคัญ  ดังนี้
            1. มนุษย์มีความสามารถในการใช้และสร้างสัญลักษณ์  สัญลักษณ์  คือ  สิ่งที่ใช้แทนสิ่งอื่น ๆ มนุษย์สามารถสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาใช้เป็นสื่อในการติดต่อระหว่างกัน  สัญลักษณ์มีความ
สำคัญต่อมนุษย์มาก  และมิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เกิดจากการเรียนรู้  โดยผ่านกระบวนการเรียกเป็นภาษาทางราชการว่า “ กระบวนการขัดเกลาทางสังคม ”  โดยมีผู้ที่เกิดก่อนเป็นผู้สอนให้กับผู้ที่เกิดภายหลัง  เช่น  พ่อแม่สอนสัญลักษณ์ให้กับลูก   เป็นต้น 
         เนื่องจากสัญลักษรืมีเป็นจำนวนมาก และมีความหมายได้หลายนัย จึงเป็นระบบที่ยุ่งยากและซับซ้อนมนุษย์เท่านั้นที่จะใช้และสร้างระบบนี้ได้ ความสามรถในการใช้สัญลักษณ์จึงเป็นความสามารถพอเศษของมนุษย์อย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น บ้าน สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ทางวัตถุ การไหว้ การโบกมือ ยิ้ม สีหน้า เป็นสัญลักษณ์ทางการกระทำและกิริยาท่าทาง เป้นต้น ส่วนสัญลักษณ์ที่มนุษย์ใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันในชีวิตประจำวันที่สำคัญ คือ ภาษา


มนุษย์ใช้ภาษาเป็นสัญลักษณ์ในการติดต่อกับบุคคลในสังคม บุคคลที่ใช้ภาษาเดียวกันจะเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์นั้น ๆ

        สัญลักษณ์มีความสำคัญต่อมนุษย์มาก  เพราะสัญลักษณ์เหล่านี้ช่วยให้มนุษย์สามารถติดต่อสัมพันธ์กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ช่วยทำให้เข้าใจความหมายของวัตถุ  การกระทำ  กิริยาท่าทางหรือภาษาที่แสดงออกมา  ช่วยให้บุคคลสามารถประพฤติปฏิบัติตอบได้อย่างถูกต้องในสถานการณ์นั้น ๆ  ดังนั้นสัญลักษณ์ จึงเป็นความสามารถพิเศษของมนุษย์อย่างหนึ่ง
         2.  มนุษย์มีวัฒนธรรม  วัฒนธรรมทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่นเพราะวัฒนธรรมทำให้สังคมมนุษย์มีระเบียบ  มีชีวิตที่ยืนยาว  มีความเจริญก้าวหน้า  ซึ่งสัตว์อื่นไม่อาจทำได้  วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เกิดจากการเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาโดยกำเนิด และไม่ใช่สิ่งที่อาจถ่ายทอดทางพันธุ์กรรม  นิสัยและความสามารถต่าง ๆ ของมนุษย์

            การไหว้เป็นสัญลักษณ์ทางการกระทำอย่างหนึ่งที่มนุษย์
              เป็นผู้คิดขึ้นฝากไว้เป็นมรดกของสังคม  แสดงถึงการทำ
              ความเคารพ   การขอบคุณ   และการขอโทษ 


อ้างอิง : http://mathayom.brr.ac.th/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น