สัตว์สังคมและธรรมชาติของมนุษย์
สัตว์สังคม คือ สัตว์ที่โดยธรรมชาติแล้วต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีความสัมพันธ์ อาศัยพึ่งพากัน เช่น มด ปลวก ลิง ช้าง และมนุษย์ เป็นต้น
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมประเภทเลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลักษณะพิเศษเหนือกว่าสัตว์อื่น ๆ จนได้ชื่อว่ามนุษย์ แปลว่า “ ผู้ฉลาด ผู้รู้คิด ” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า HUMAN หมายถึง ผู้มีวัฒนธรรม ในทางสังคมวิทยาถือว่ามนุษย์เกิดขึ้นพร้อมกับสังคม หรือสังคมมนุษย์ มนุษย์กับสังคมจึงเป็นสิ่งเดียวกันแยกจากกันไม่ออก

อริสโตเติล นักปราชญ์ชาวกรีก กล่าวว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” หมายความว่า โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์ไม่สามารถอยู่ลำพังเพียงคนเดียวได้ต้องอาศัยรวมกันอยู่เป็นหมู่เหล่า ติดต่อสัมพันธ์กันพึ่งพาอาศัยและอยู่ภายใต้ระเบียบกฎเกณฑ์เดียวกัน มนุษย์ได้รวมตัวกันสร้างวัฒนธรรมขึ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองจากด้านที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน (animal side) มาเป็นด้านที่เป็นมนุษย์(human side) มนุษย์จึงต้องมีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะวัฒนธรรมเกิดจากการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองแบบสัญชาตญาณสัตว์การเรียนรู้ของมนุษย์จึงไม่มีที่สิ้นสุด


มนุษย์สมัยดึกดำบรรพ์มีการรวมกลุ่มกันหากินด้วยการล่าสัตว์และเก็บผักกินเป็นอาหาร
มูลเหตุที่มนุษย์ต้องมาอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มสังคม มนุษย์เป็นสัตว์สังคมจำพวกหนึ่งที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกันด้วยเหตุผล ดังนี้
1. มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ที่เกิดก่อนเลี้ยงดูและถ่ายทอดวัฒนธรรม
2. เพื่อสนองตอบความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์
3. มนุษย์ต้องการรับ และถ่ายทอดวัฒนธรรมระหว่างสมาชิก เพื่อให้มีความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์
4. เพื่อร่วมมือและแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ ทำให้มีการพึ่งพา และร่วมมือในการดำเนินชีวิตร่วมกัน
1. มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ที่เกิดก่อนเลี้ยงดูและถ่ายทอดวัฒนธรรม
2. เพื่อสนองตอบความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์
3. มนุษย์ต้องการรับ และถ่ายทอดวัฒนธรรมระหว่างสมาชิก เพื่อให้มีความเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์
4. เพื่อร่วมมือและแบ่งงานกันทำตามความชำนาญ ทำให้มีการพึ่งพา และร่วมมือในการดำเนินชีวิตร่วมกัน

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมจำพวกหนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่รวมกัน
เป็นกลุ่ม และมีการกระทำระหว่างกันทางสังคม
เป็นกลุ่ม และมีการกระทำระหว่างกันทางสังคม
ความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์
มนุษย์มีความต้องการพื้นฐานหรือความต้องการจำเป็นในสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้มากมายหลายสิ่ง และมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุดซึ่งสามารถแบ่งความต้องการออกได้ 4 ด้าน คือ
1. ความต้องการด้านชีวภาพ คือ ความต้องการสิ่งที่จำเป็นแก่การมีชีวิตอยู่รอดของมนุษย์และส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับสัตว์อื่น ๆ เช่น อาหาร อากาศ ยารักษาโรค น้ำ การขับถ่าย และ
ความต้องการทางเพศ
2. ความต้องการด้านกายภาพ คือ ความต้องการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆ
3. ความต้องการด้านจิตวิทยา คือ ความต้องการที่เกี่ยวกับจิตใจ เช่น ต้องการความรัก การปลอบใจเมื่อมีทุกข์หรือผิดหวัง ต้องการความรู้ ความสำเร็จ ความชื่นชมยินดี เป็นต้น
มนุษย์มีความต้องการพื้นฐานหรือความต้องการจำเป็นในสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้มากมายหลายสิ่ง และมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุดซึ่งสามารถแบ่งความต้องการออกได้ 4 ด้าน คือ
1. ความต้องการด้านชีวภาพ คือ ความต้องการสิ่งที่จำเป็นแก่การมีชีวิตอยู่รอดของมนุษย์และส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับสัตว์อื่น ๆ เช่น อาหาร อากาศ ยารักษาโรค น้ำ การขับถ่าย และ
ความต้องการทางเพศ
2. ความต้องการด้านกายภาพ คือ ความต้องการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆ
3. ความต้องการด้านจิตวิทยา คือ ความต้องการที่เกี่ยวกับจิตใจ เช่น ต้องการความรัก การปลอบใจเมื่อมีทุกข์หรือผิดหวัง ต้องการความรู้ ความสำเร็จ ความชื่นชมยินดี เป็นต้น
4. ความต้องการด้านสังคม คือ ความต้องการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้อื่น ต้องการเพื่อนคู่คิด ต้องการรับและถ่ายทอดวัฒนธรรม
ความต้องการทั้ง 4 ประการ จะบรรลุโดยการที่มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมพึ่งพา
อาศัยซึ่งกันและกัน ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนจึงจะได้รับการตอบสนองครบทั้ง 4 ด้าน
อาศัยซึ่งกันและกัน ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนจึงจะได้รับการตอบสนองครบทั้ง 4 ด้าน
ธรรมชาติของมนุษย์
มนุษย์มีลักษณะประจำตัวหลายอย่าง บางอย่างก็เหมือนกับสัตว์สังคมอื่น ๆ และบางอย่างก็เป็นลักษณะเฉพาะของมนุษย์ ที่สัตว์ประเภทอื่นไม่มี ได้แก่
ธรรมชาติของมนุษย์ที่เหมือนกับสัตว์อื่น มีดังนี้
1. ต้องการอาหาร น้ำ และอากาศ
2. ต้องอาศัยพึ่งพาสิ่งแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและชีวภาพเพื่อบำบัดความต้องการ
3. มีความสามารถในการสืบพันธุ์
4. มีหน้าตาคล้ายผู้ให้กำเนิด เช่น พ่อ แม่ หรือบรรพบุรุษ
5. เมื่อหิวมนุษย์และสัตว์ต้องแสวงหาให้ได้มาซึ่งอาหาร
6. มนุษย์และสัตว์มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
1. ต้องการอาหาร น้ำ และอากาศ
2. ต้องอาศัยพึ่งพาสิ่งแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและชีวภาพเพื่อบำบัดความต้องการ
3. มีความสามารถในการสืบพันธุ์
4. มีหน้าตาคล้ายผู้ให้กำเนิด เช่น พ่อ แม่ หรือบรรพบุรุษ
5. เมื่อหิวมนุษย์และสัตว์ต้องแสวงหาให้ได้มาซึ่งอาหาร
6. มนุษย์และสัตว์มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ


ความสามารถในการสืบพันธุ์ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เหมือนกับสัตว์อื่นก่อให้เกิดสถาบันพื้นฐานแรกสุดของสังคม คือ ครอบครัว
ธรรมชาติของมนุษย์ที่แตกต่างจากสัตว์อื่น มีดังนี้
1. มนุษย์มีร่างกายตั้งตรง (ตั้งฉาก) กับพื้นโลกในขณะที่สัตว์อื่น ๆ ที่เรามักเรียกว่า
“เดรัจฉาน” แปลว่าผู้มีร่างกายโดยขวาง เช่น ม้า หมา แมว นก ไก่ ปลา จะมีร่างกาย (ลำตัว) ตามขวาง (เปรียบเทียบกับตั้งตรง) หรือขนานกับพื้นโลก การที่มนุษย์มีร่างกายตั้งตรงกับพื้นโลกทำให้เกิดความแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานอื่น ๆ คือ
ก. ช่วยให้มนุษย์สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้รอบตัวเอง และเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ข. ช่วยให้แขนและมือเป็นอิสระ โดยไม่ต้องช่วยในการเคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบกับลักษณะและคุณภาพของนิ้วมือที่ไม่ติดกัน นิ้วงอได้ กระดิกได้ มีนิ้วหัวแม่มืออยู่ในทิศที่ตรงกันข้ามกับนิ้วอื่น ๆ ทำให้การใช้แขนและมือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ค. ช่วยให้มนุษย์ใช้ปากในการพูด ประกอบกับคางที่ยื่นออกมา ทำให้มีขากรรไกรกว้าง
ช่วยในการออกเสียงคำต่าง ๆ ชัดเจน เกิดภาษาพูดอันละเอียดอ่อน และหลากหลาย
( สัตว์อื่นก็มีภาษาพูด แต่ภาษาสัตว์มีน้อยไม่ละเมียดละไมเหมือนภาษาพูดของมนุษย์ )
2. ความได้เปรียบในตำแหน่งของดวงตา มนุษย์มีดวงตาคู่อยู่ด้านหน้าของกะโหลกศีรษะ ประกอบกับร่างกายตั้งตรง ช่วยให้มีความสามารถในการมองเห็นได้ดี
3. มองใหญ่ และมีระบบประสาทที่สลับซับซ้อนกว่าสัตว์อื่น โดยเปรียบเทียบกับหนักตัวที่เท่า ๆ กันทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานของสมองมนุษย์ ดีกว่า ฉลาดกว่า มีเชาว์ปัญญาสูงกว่าสัตว์อื่น
4. มีความต้องการทางเพศไม่จำกัดฤดูกาลทำให้สามารถ หรือจำเป็นในการควบคุมจำนวนประชากรได้ และเกิดการวางระเบียบแบบแผนเกี่ยวกับครอบครัวขึ้น
5. มีระยะเวลาของการเป็นทารกที่ยาวนาน ซึ่งทำให้สามารถเรียนรู้และเตรียมตัวที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมได้ดี ดังนั้นวิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์ (พฤติกรรมของมนุษย์) จึงเป็นไปโดย
การเรียนรู้ ผิดกับพฤติกรรมของสัตว์จะเป็นไปตามสัญชาตญาณ
1. มนุษย์มีร่างกายตั้งตรง (ตั้งฉาก) กับพื้นโลกในขณะที่สัตว์อื่น ๆ ที่เรามักเรียกว่า
“เดรัจฉาน” แปลว่าผู้มีร่างกายโดยขวาง เช่น ม้า หมา แมว นก ไก่ ปลา จะมีร่างกาย (ลำตัว) ตามขวาง (เปรียบเทียบกับตั้งตรง) หรือขนานกับพื้นโลก การที่มนุษย์มีร่างกายตั้งตรงกับพื้นโลกทำให้เกิดความแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานอื่น ๆ คือ
ก. ช่วยให้มนุษย์สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้รอบตัวเอง และเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ข. ช่วยให้แขนและมือเป็นอิสระ โดยไม่ต้องช่วยในการเคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบกับลักษณะและคุณภาพของนิ้วมือที่ไม่ติดกัน นิ้วงอได้ กระดิกได้ มีนิ้วหัวแม่มืออยู่ในทิศที่ตรงกันข้ามกับนิ้วอื่น ๆ ทำให้การใช้แขนและมือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ค. ช่วยให้มนุษย์ใช้ปากในการพูด ประกอบกับคางที่ยื่นออกมา ทำให้มีขากรรไกรกว้าง
ช่วยในการออกเสียงคำต่าง ๆ ชัดเจน เกิดภาษาพูดอันละเอียดอ่อน และหลากหลาย
( สัตว์อื่นก็มีภาษาพูด แต่ภาษาสัตว์มีน้อยไม่ละเมียดละไมเหมือนภาษาพูดของมนุษย์ )
2. ความได้เปรียบในตำแหน่งของดวงตา มนุษย์มีดวงตาคู่อยู่ด้านหน้าของกะโหลกศีรษะ ประกอบกับร่างกายตั้งตรง ช่วยให้มีความสามารถในการมองเห็นได้ดี
3. มองใหญ่ และมีระบบประสาทที่สลับซับซ้อนกว่าสัตว์อื่น โดยเปรียบเทียบกับหนักตัวที่เท่า ๆ กันทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานของสมองมนุษย์ ดีกว่า ฉลาดกว่า มีเชาว์ปัญญาสูงกว่าสัตว์อื่น
4. มีความต้องการทางเพศไม่จำกัดฤดูกาลทำให้สามารถ หรือจำเป็นในการควบคุมจำนวนประชากรได้ และเกิดการวางระเบียบแบบแผนเกี่ยวกับครอบครัวขึ้น
5. มีระยะเวลาของการเป็นทารกที่ยาวนาน ซึ่งทำให้สามารถเรียนรู้และเตรียมตัวที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมได้ดี ดังนั้นวิถีการดำรงชีวิตของมนุษย์ (พฤติกรรมของมนุษย์) จึงเป็นไปโดย
การเรียนรู้ ผิดกับพฤติกรรมของสัตว์จะเป็นไปตามสัญชาตญาณ

มนุษย์มีสมองขนาดใหญ่ และระบบประสาทที่สลับซับซ้อนกว่าสัตว์อื่ สามารถคิดอ่านสิ่งต่าง ๆได้ดีกว่า ฉลาดกว่าและ มีเชาว์ปัญญาสูงกว่าสัตว์อื่น
ความได้เปรียบที่สำคัญของมนุษย์
ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์มีลักษณะพิเศษหลายอย่างที่ได้เปรียบสัตว์ที่สำคัญ มีดังนี้
1. ความสามารถในการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
2. มีมันสมองที่ใหญ่และมีคุณภาพ สามารถเดินได้เร็ว
3. มีนิ้วมือที่สามารถใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
4. มีตาที่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดีและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
5. มีอายุที่ยืนยาวกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ
6. มนุษย์มีชีวิตอยู่และเรียนรู้ร่วมกันเป็นสังคม
7. มนุษย์มีกิจกรรมทางเพศตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจนถึงวัยชรา
8. มนุษย์สามารถเรียนรู้และมีความฉลาด รู้จักใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
1. ความสามารถในการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด
2. มีมันสมองที่ใหญ่และมีคุณภาพ สามารถเดินได้เร็ว
3. มีนิ้วมือที่สามารถใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
4. มีตาที่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดีและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
5. มีอายุที่ยืนยาวกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ
6. มนุษย์มีชีวิตอยู่และเรียนรู้ร่วมกันเป็นสังคม
7. มนุษย์มีกิจกรรมทางเพศตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจนถึงวัยชรา
8. มนุษย์สามารถเรียนรู้และมีความฉลาด รู้จักใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา
ความเสียเปรียบที่สำคัญของมนุษย์
มนุษย์มีธรรมชาติหลายอย่างที่เสียเปรียบสัตว์จำพวกอื่น ดังนี้
1. มีระยะเวลาเป็นทารกที่ยาวนาน ช่วยเหลือตัวเองในระยะเริ่มต้นของชีวิตไม่ได้
2. มนุษย์ไม่มีเขี้ยวเล็บในการฉีกเนื้อและพืช หรือป้องกันศัตรู
3. มีความสามารถในการดมกลิ่น ด้อยกว่าสัตว์บางชนิด
4. การขยายพันธุ์แต่ละครั้งต่ำกว่าสัตว์หลายชนิด
ลักษณะพิเศษของมนุษย์
มนุษย์มีลักษณะพิเศษที่สำคัญ ดังนี้
1. มนุษย์มีความสามารถในการใช้และสร้างสัญลักษณ์ สัญลักษณ์ คือ สิ่งที่ใช้แทนสิ่งอื่น ๆ มนุษย์สามารถสร้างสัญลักษณ์ขึ้นมาใช้เป็นสื่อในการติดต่อระหว่างกัน สัญลักษณ์มีความ
สำคัญต่อมนุษย์มาก และมิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เกิดจากการเรียนรู้ โดยผ่านกระบวนการเรียกเป็นภาษาทางราชการว่า “ กระบวนการขัดเกลาทางสังคม ” โดยมีผู้ที่เกิดก่อนเป็นผู้สอนให้กับผู้ที่เกิดภายหลัง เช่น พ่อแม่สอนสัญลักษณ์ให้กับลูก เป็นต้น
สำคัญต่อมนุษย์มาก และมิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เกิดจากการเรียนรู้ โดยผ่านกระบวนการเรียกเป็นภาษาทางราชการว่า “ กระบวนการขัดเกลาทางสังคม ” โดยมีผู้ที่เกิดก่อนเป็นผู้สอนให้กับผู้ที่เกิดภายหลัง เช่น พ่อแม่สอนสัญลักษณ์ให้กับลูก เป็นต้น
เนื่องจากสัญลักษรืมีเป็นจำนวนมาก และมีความหมายได้หลายนัย จึงเป็นระบบที่ยุ่งยากและซับซ้อนมนุษย์เท่านั้นที่จะใช้และสร้างระบบนี้ได้ ความสามรถในการใช้สัญลักษณ์จึงเป็นความสามารถพอเศษของมนุษย์อย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น บ้าน สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ เป็นสัญลักษณ์ทางวัตถุ การไหว้ การโบกมือ ยิ้ม สีหน้า เป็นสัญลักษณ์ทางการกระทำและกิริยาท่าทาง เป้นต้น ส่วนสัญลักษณ์ที่มนุษย์ใช้ในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันในชีวิตประจำวันที่สำคัญ คือ ภาษา

มนุษย์ใช้ภาษาเป็นสัญลักษณ์ในการติดต่อกับบุคคลในสังคม บุคคลที่ใช้ภาษาเดียวกันจะเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์นั้น ๆ
สัญลักษณ์มีความสำคัญต่อมนุษย์มาก เพราะสัญลักษณ์เหล่านี้ช่วยให้มนุษย์สามารถติดต่อสัมพันธ์กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้เข้าใจความหมายของวัตถุ การกระทำ กิริยาท่าทางหรือภาษาที่แสดงออกมา ช่วยให้บุคคลสามารถประพฤติปฏิบัติตอบได้อย่างถูกต้องในสถานการณ์นั้น ๆ ดังนั้นสัญลักษณ์ จึงเป็นความสามารถพิเศษของมนุษย์อย่างหนึ่ง
2. มนุษย์มีวัฒนธรรม วัฒนธรรมทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่นเพราะวัฒนธรรมทำให้สังคมมนุษย์มีระเบียบ มีชีวิตที่ยืนยาว มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งสัตว์อื่นไม่อาจทำได้ วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เกิดจากการเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาโดยกำเนิด และไม่ใช่สิ่งที่อาจถ่ายทอดทางพันธุ์กรรม นิสัยและความสามารถต่าง ๆ ของมนุษย์
2. มนุษย์มีวัฒนธรรม วัฒนธรรมทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่นเพราะวัฒนธรรมทำให้สังคมมนุษย์มีระเบียบ มีชีวิตที่ยืนยาว มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งสัตว์อื่นไม่อาจทำได้ วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เกิดจากการเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาโดยกำเนิด และไม่ใช่สิ่งที่อาจถ่ายทอดทางพันธุ์กรรม นิสัยและความสามารถต่าง ๆ ของมนุษย์

การไหว้เป็นสัญลักษณ์ทางการกระทำอย่างหนึ่งที่มนุษย์
เป็นผู้คิดขึ้นฝากไว้เป็นมรดกของสังคม แสดงถึงการทำ
ความเคารพ การขอบคุณ และการขอโทษ
เป็นผู้คิดขึ้นฝากไว้เป็นมรดกของสังคม แสดงถึงการทำ
ความเคารพ การขอบคุณ และการขอโทษ
อ้างอิง : http://mathayom.brr.ac.th/